โค้ดเหตุการณ์
หลังจากที่คุณเพิ่มโค้ดฐาน คุณจะสามารถเพิ่มโค้ดเหตุการณ์เพื่อติดตามกิจกรรมการซื้อที่มาจากการคลิกเฉพาะเหตุการณ์ได้ในเว็บไซต์ของคุณ
ตารางด้านล่างแสดงเหตุการณ์ที่คุณสามารถติดตามได้ด้วยแท็กของ Pinterest และรวมถึงการรายงาน การสร้างกลุ่มผู้ชม และ คอนเวอร์ชัน
เหตุการณ์ |
วัตถุประสงค์ |
การสร้างผู้ชม |
การรายงานพฤติกรรม |
Checkout |
ติดตามผู้ที่ทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ |
✔ |
✔ |
AddToCart |
ติดตามผู้ที่เพิ่มรายการในตะกร้าซื้อสินค้า |
✔ |
✔ |
PageVisit |
ติดตามผู้ที่ชมหน้าเพจหลัก เช่น หน้าสินค้าและหน้าบทความ |
✔ |
✔ |
Signup |
ติดตามผู้ที่สมัครใช้งานสินค้าหรือบริการของคุณ |
✔ |
✔ |
WatchVideo |
ติดตามผู้ที่ดูวิดีโอ |
✔ |
✔ |
Lead |
ติดตามผู้ที่แสดงความสนใจในสินค้าและบริการของคุณ |
✔ |
✔ |
Search |
ติดตามผู้ที่ทำการค้นหาในเว็บไซต์ของคุณเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์เฉพาะอย่างหรือตำแหน่งร้านค้า |
✔ |
✔ |
ViewCategory |
ติดตามผู้ที่ชมหน้าหมวดหมู่ |
✔ |
✔ |
Custom |
ติดตามเหตุการณ์ที่กำหนดเอง ใช้ชื่อเหตุการณ์นี้เพื่อติดตามกิจกรรมพิเศษที่คุณต้องการรวมไว้ในรายงานคอนเวอร์ชัน |
✔ |
✔ |
[User-defined event] |
เพิ่มเหตุการณ์เพิ่มเติมใดๆ ที่คุณได้กำหนดไว้การกำหนดกลุ่มผู้ชมเป้าหมาย โดยเหตุการณ์เฉพาะที่ไม่ซ้ำจะใช้ไม่ได้ในการรายงานคอนเวอร์ชัน โปรดระลึกไว้ว่าช่องว่างจะถูกตัดออกจากชื่อเหตุการณ์ที่ยังไม่ผ่านการแก้ไขที่มาจากการแท็ก |
✔ |
ตำแหน่ง
ทั้งโค้ดฐานและโค้ดเหตุการณ์ต้องถูกเพิ่มเข้าหน้าเพจใดก็ได้ที่คุณต้องการติดตามคอนเวอร์ชัน ควรวางโค้ดฐานไว้ในหน้าเว็บไซต์ทุกหน้า แต่โค้ดเหตุการณ์นั้นให้วางไว้ในหน้าที่ต้องการติดตามคอนเวอร์ชันเท่านั้น โค้ดฐานต้องทำงานก่อนโค้ดเหตุการณ์ ดังนั้นให้วางโค้ดฐานก่อน
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการติดตามการชำระเงินที่เสร็จสมบูรณ์ คุณควรวางโค้ดฐานแล้วตามด้วยโค้ดเหตุการณ์ชำระเงินระหว่างแท็ก <head> และ </head> ในหน้าการยืนยันการชำระเงิน การวางรหัสเช่นนี้จะยืนยันว่ารหัสจะทำงานทันทีที่มีการโหลดหน้าเพจ
ในทางกลับกัน ถ้ามีการสร้างเหตุการณ์เฉพาะเมื่อผู้ใช้ดำเนินการเฉพาะอย่างที่หน้าเพจ เช่น คลิกปุ่มหรือส่งแบบฟอร์ม ในกรณีนั้นคุณต้องยืนยันว่าโค้ดเหตุการณ์ทำงานเป็นผลลัพธ์ของการดำเนินการนั้นๆ เท่านั้น ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ คุณต้องเข้าใจการทำงานของตัวจัดการเหตุการณ์ที่อยู่ในโค้ด JavaScript ของหน้าเพจก่อน
ข้อมูลเหตุการณ์
คุณสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ได้โดยแนบออบเจ็กต์ที่มีข้อมูลเหตุการณ์
โปรดระลึกไว้ว่าในปัจจุบันนี้เราสามารถให้ได้เพียงการรายงานมูลค่าและข้อมูลเหตุการณ์ order_quantity เท่านั้น ข้อมูลเหตุการณ์เพิ่มเติมจะมีให้เพื่อการกำหนดกลุ่มผู้ชมเป้าหมาย แต่ไม่มีให้เพื่อการรายงานคอนเวอร์ชัน
ค่าที่ควรส่งกลับมาพร้อมกับรหัสสกุลเงินที่ถูกต้อง เราจะแปลงค่าคอนเวอร์ชันในตัวจัดการโฆษณาการรายงานไปยังสกุลเงินของบัญชีของคุณ โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างรหัสสกุลเงินที่ส่งกลับมาในแท็กคอนเวอร์ชันและสกุลเงินของบัญชีของคุณ
ข้อมูลเหตุการณ์ |
ค่าตัวอย่าง |
ประเภท |
การสร้างผู้ชม |
การรายงานพฤติกรรม |
value |
100.00 |
หมายเลข (จำนวนเต็มหรือจุดลอยตัว) |
✔ |
✔ |
order_quantity |
1 |
จำนวนเต็ม |
✔ |
✔ |
currency |
USD |
ค่าหนึ่งต่อไปนี้: USD, GBP, CAD, EUR, AUD หรือ NZD |
✔ |
|
product_name |
Parker Boots |
แถว line_items |
✔ |
|
product_id |
1414 |
แถว line_items |
✔ |
|
product_category |
รองเท้า |
แถว line_items |
✔ |
|
product_variant_id |
1414-Red |
แถว line_items |
✔ |
|
product_variant |
สีแดง |
แถว line_items |
✔ |
|
product_price |
99.99 |
หมายเลข (จำนวนเต็มหรือจุดลอยตัว), แถว line_items |
✔ |
|
product_quantity |
1 |
จำนวนเต็ม, แถว line_items |
✔ |
|
product_brand |
Parker |
แถว line_items |
✔ |
|
promo_code |
WINTER10 |
แถว |
✔ |
|
property |
Athleta |
แถว |
✔ |
|
search_query |
รองเท้าบูท |
แถว |
✔ |
|
video_title |
วิธีการใส่ Parker Boots ของคุณ |
แถว |
✔ |
|
lead_type |
จดหมายข่าว |
แถว |
✔ |
ตัวอย่างโค้ดเหตุการณ์ด้านล่างจะติดตามเหตุการณ์การชำระเงินด้วยข้อมูลเหตุการณ์ที่อธิบายการซื้อสินค้าสองผลิตภัณฑ์ โปรดคำนึงว่าตัวอย่างนี้เป็นส่วน JavaScript ของโค้ดเหตุการณ์ ในตัวอย่างนี้ order_quantity และค่าเป็นแบบคงที่ แต่คุณอาจต้องการส่งกลับค่าเหล่านี้แบบไดนามิก
ดูส่วนข้อมูลมูลค่าและปริมาณด้านล่าสำหรับตัวอย่างของค่าไดนามิกและปริมาณ
<script>
pintrk('track', 'checkout', {
value: 10.00,
order_quantity: 2,
currency: 'USD',
line_items: [
{
product_name: 'Parker Boots',
product_id: '1414',
product_price: 5.00,
product_quantity: 1
},
{
product_name: 'Parker Sandals',
product_id: 'ABC',
product_price: 5.00,
product_quantity: 1
}
]
});
</script>
มูลค่าและข้อมูลเหตุการณ์ปริมาณ
มูลค่าและปริมาณการสั่งซื้อคือข้อมูลเหตุการณ์สองตัวที่มีพร้อมใช้งานเพื่อรายงานคอนเวอร์ชันในปัจจุบัน หากคุณต้องการเพิ่มมูลค่าหรือปริมาณ คุณสามารถทำได้โดยใช้ค่าคงที่หรือส่งกลับค่านั้นแบบไดนามิก หากคุณต้องการส่งกลับมูลค่าและปริมาณแบบไดนามิกตามที่แนะนำ การส่งกลับนั้นจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเว็บไซต์และวิธีที่คุณบันทึกยอดขาย โดยทั่วไปแล้ว มูลค่าและปริมาณของสินค้าแต่ละออเดอร์ที่สั่งซื้อในเว็บไซต์ของคุณจะแตกต่างกันไป เราขอแนะนำให้ใช้ตัวแปรแบบไดนามิกเพื่อติดตามปริมาณและมูลค่าในแท็กคอนเวอร์ชันของคุณ เพื่อติดตามมูลค่าการขายทั้งหมดอย่างแม่นยำ
ตัวอย่างของค่าฮาร์ดโค้ดและปริมาณ:
<script>
pintrk('track', 'checkout', {
value: 10.00, // Read this value (must be a number)
order_quantity: 5 // Read this quantity (must be an integer)
});
</script>
<noscript>
<img height="1" width="1" style="display:none;" alt="" src="https://ct.pinterest.com/v3/?tid=123456789&event=checkout&ed[value]=10.00&ed[order_quantity]=5&noscript=1"/>
</noscript>
ค่าที่รายงาน: 10.00
ปริมาณที่รายงาน: 5
ตัวอย่างของค่าไดนามิกและปริมาณ:
<script>
pintrk('track', 'checkout', {
value: {{Enhanced Transaction Revenue}},
order_quantity: {{item.quantity}}
});
</script>
<noscript>
<img height="1" width="1" style="display:none;" alt="" src="https://ct.pinterest.com/v3/?tid=123456789&event=checkout&ed[value]={{Enhanced Transaction Revenue}}&ed[order_quantity]={{item.quantity}}&noscript=1" />
</noscript>
ค่าที่รายงาน: จำนวนรวมแบบไดนามิกที่ซื้อด้วยการชำระเงินที่สัมพันธ์กัน
ปริมาณที่รายงาน: ปริมาณแบบไดนามิกที่ซื้อด้วยการชำระเงินที่สัมพันธ์กัน
โปรดทราบว่าการตั้งค่าปริมาณและมูลค่าการสั่งซื้อแบบไดนามิกนี้ของเว็บไซต์คุณนั้นจะไม่ซ้ำกับที่อื่น
เรียกกลับ
นอกเหนือจากข้อมูลเหตุการณ์แล้ว คุณยังสามารถส่งฟังก์ชันเรียกกลับของ JavaScript เป็นอาร์กิวเมนต์เสริมในฟังก์ชัน pintrk() ได้ด้วย ฟังก์ชันเรียกกลับนี้จะทำงานทุกครั้งที่มีการเรียกการติดตามเหตุการณ์, ฟังก์ชัน pintrk() จะถูกกระตุ้น
ฟังก์ชันเรียกกลับบจะใช้อาร์กิวเมนต์สองตัวดังต่อไปนี้:
function(didInit, error) {}
-
didInit: อาร์กิวเมนต์ตัวแรกนี้จะรับค่าบูลีนซึ่งถูกกำหนดให้เป็น true ถ้าการเรียกการติดตามเหตุการณ์สร้างขึ้นสำเร็จ และกำหนดเป็น false ถ้าหากพบข้อผิดพลาดขณะกำลังทำการเรียกการติดตามเหตุการณ์
-
error: อาร์กิวเมนต์ตัวที่สองนี้จะรับสตริงที่อธิบายข้อผิดพลาดเมื่อ didInit ส่งกลับเป็น false แต่ถ้า didInit เป็น true สตริงนี้จะไม่มีการนิยามไว้
ตัวอย่าง
<script>
pintrk('track', 'checkout', {
value: 10.00,
order_quantity: 2,
currency: 'USD',
line_items: [
{
product_name: 'Parker Boots',
product_id: '1414',
product_price: 5.00,
product_quantity: 1
},
{
product_name: 'Parker Sandals'
product_id: 'ABC',
product_price: 5.00,
product_quantity: 1
}
]
}, function(didInit, error) { if (!didInit) { console.log(error); }
});
</script>
ขั้นตอนต่อไป
คุณสามารถชมตัวอย่างเพิ่มเติมได้ที่นี่ เมื่อคุณได้เพิ่มรหัสฐานและโค้ดเหตุการณ์แล้ว คุณสามารถใช้ผู้ช่วยแท็กPinterest เพื่อยืนยันว่าคุณได้ใช้แท็กอย่างถูกต้อง