1. เข้าสู่ระบบบัญชีธุรกิจ Pinterest ของคุณ
2. คลิก ไอคอนแฮมเบอร์เกอร์ ที่ด้านซ้ายบนของหน้า
3. ในส่วนธุรกิจ ให้คลิกคอนเวอร์ชัน
4. คลิก Get started
5. เลือกต้นทางของการเชื่อมต่อ จากนั้นคลิกดําเนินการต่อ
6. คลิกข้าม
7. เลือก Google Tag Manager จากนั้นคลิกดำเนินการต่อ
8. ทําตามคําแนะนําเพื่อติดตั้งโค้ดฐานให้เสร็จสมบูรณ์
9. ไปที่ Google Tag Manager เพื่อยืนยันแท็กที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่
   • หากต้องการใช้การจับคู่ที่ปรับปรุง ให้คลิกแท็กเพื่อเปิดการกําหนดค่าแท็ก คลิกไอคอนบวกด้านล่างอีเมลที่แฮชแล้วเลือกตัวแปรชั้นข้อมูลของเว็บไซต์สำหรับอีเมลหรือสร้างขึ้นมาใหม่

โปรดทราบว่าคุณจะต้องทําตามขั้นตอนด้านล่างทุกครั้งที่คุณเพิ่มเหตุการณ์

1. ไปที่ Google Tag Manager แล้วคลิกเพิ่มแท็กใหม่
2. ป้อนชื่อแท็กที่ด้านบนของหน้าจอที่มีคำว่าแท็กไม่มีชื่อ
3. คลิกการกำหนดค่าแท็ก
4. คลิก ไอคอนค้นหา ที่มุมขวาบนของหน้าแล้วเริ่มพิมพ์ Pinterest ในแถบค้นหา คลิกแท็ก Pinterest เมื่อแท็กปรากฏด้านล่าง
5. ป้อน ID แท็ก Pinterest จากหน้าคอนเวอร์ชันของบัญชี Pinterest ด้านล่าง ID แท็ก
   • คุณยังสามารถเลือกตัวแปรที่จะใช้ซ้ำได้ด้วย โดยคลิก ไอคอนบวก ถัดจาก ID แท็ก
6. คลิกเมนูดรอปดาวน์ด้านล่างเหตุการณ์ที่จะเริ่มทำงานและเลือกเหตุการณ์ที่คุณต้องการติดตามบนเว็บไซต์
   • อินพุตที่มีให้เลือกจะปรากฏขึ้นโดยขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่คุณเลือก คุณสามารถป้อนค่าที่คงที่ หรือคลิกที่ไอคอนรูปอิฐและเลือกตัวแปรชั้นข้อมูลสำหรับข้อมูลเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องได้
   • สำหรับแท็กเหตุการณ์ addtocart, checkout และ pagevisit คุณสามารถเพิ่มตัวแปรแบบไดนามิกที่ผันแปรตามข้อมูลเหตุการณ์ product_id เพื่อสร้างกลุ่มผู้ชมและกำหนดเป้าหมายใหม่ได้
     • ตัวแปรไดนามิก product_id ไม่ต้องมีไวยากรณ์เพิ่มเติม เพียงแต่ต้องเติม ID ที่ตรงกับสินค้าคงคลังของคุณเท่านั้น
     • หากคุณต้องการส่ง product_id หลายรายการพร้อมกันหรือคาดว่าจะเกิดกรณีเช่นนั้น คุณจะต้องตั้งค่าตัวแปรชั้นข้อมูลให้ใช้ไวยากรณ์ line_items โปรดดูโครงสร้างและตัวอย่างของอาร์เรย์ line_items ด้านล่าง
7. ไม่บังคับ: ทำเครื่องหมายในช่องถัดจากพารามิเตอร์ที่กำหนดเองสำหรับการกำหนดเป้าหมายผู้ชม
8. คลิกการตั้งค่าขั้นสูง จากนั้นเลือกลำดับแท็ก
9. ทำเครื่องหมายในช่องถัดจากเริ่มการทำงานของแท็กก่อนที่ <แท็กของคุณ> จะเริ่มทำงาน
10. คลิกเลือกแท็กแล้วเลือกแท็กฐานที่คุณตั้งค่าไว้ก่อนหน้านี้จากเมนูดรอปดาวน์
11. คลิกทริกเกอร์และเลือกการดำเนินการหรือหน้าที่ต้องการให้เหตุการณ์เริ่มทำงาน
12. คลิกบันทึกที่มุมขวาบน
13. คลิกส่งเพื่อเผยแพร่การเปลี่ยนแปลง

1. ไปที่ Google Tag Manager
2. คลิกโค้ดเหตุการณ์หรือแท็กที่คุณต้องการเพิ่ม ID ผลิตภัณฑ์
3. เลือกเหตุการณ์จากเมนูดรอปดาวน์ของเหตุการณ์ที่จะเริ่มทำงาน
4. ทำเครื่องหมายในช่องถัดจากพารามิเตอร์ที่กำหนดเอง เว้น Product ID และ Product Category ใต้ Line Items ว่างไว้เพื่อคุณเพิ่มพารามิเตอร์ที่กำหนดเอง
5. คลิกเพิ่มแถวเพื่อเพิ่มตัวแปร
6. ป้อนชื่อตัวแปรใต้ชื่อ จากนั้นคลิก + ใต้ค่า
7. เลือกตัวแปรที่มีอยู่จากรายการ หรือคลิก + ที่มุมขวาบนเพื่อสร้างตัวแปรใหม่
8. คลิกทริกเกอร์เพื่อตั้งค่าทริกเกอร์ที่จำเป็นสำหรับเว็บไซต์ของคุณ
9. คลิกบันทึก

คุณจะต้องสร้างตัวแปรชั้นข้อมูลที่เรียกว่า "items" ในหน้าใดก็ตามที่ต้องการตั้งค่ารหัสผลิตภัณฑ์และหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ จึงจะใช้การได้ ซึ่งคุณตั้งค่าทั้งหมดได้ที่นี่

<script>
  dataLayer = [{{ 
    items : [
      {{
        product_id: '1414',
        product_category: 'Shoes'
      }},
      {{
        product_id: 'ABC',
        product_category: 'Toys'
      }}
     ]
    }}];
</script>

เมื่อเพิ่มชั้นข้อมูลแล้ว ให้ปรับใช้หรือบันทึกโค้ดของเว็บไซต์

1. ไปที่ Google Tag Manager
2. คลิกโค้ดเหตุการณ์หรือแท็กที่คุณต้องการเพิ่ม ID ผลิตภัณฑ์
3. คลิกช่องด้านล่างเหตุการณ์ที่จะเริ่มทำงาน จากนั้นเลือกเหตุการณ์จากรายการ
4. ทำเครื่องหมายในช่องถัดจากพารามิเตอร์ที่กำหนดเอง
5. คลิกเพิ่มแถวเพื่อเพิ่มตัวแปร
6. ด้านล่างชื่อ ให้ป้อน 'event_id' เป็นชื่อของตัวแปร จากนั้นคลิก ไอคอนเครื่องหมายบวก ใต้ค่าเพื่อป้อนค่า
   • หมายเหตุ: ควรสร้างค่าแบบไดนามิกสำหรับแต่ละเหตุการณ์เพื่อให้ไม่ซ้ำกับเหตุการณ์
7. คลิกบันทึก